“尚泰零售”是尚泰集团的旗舰业务之一,包括尚泰鲁滨逊百货公司,SuperSports,Power Buy,Office,B2S,SCMG,泰国Watsadu,Houses and Beyond Tops,尚泰食品大厅。 FamilyMart和Matsumoto Kiyoshi涵盖时尚,硬线和食品业务,Central Retail每年均花费平均投资预算。 40,000-500亿泰铢,在过去一年中,可产生总收入2402.97亿泰铢,占泰国的77-78%,越南的14-15%和意大利的8%,食品组的43%,时尚的35%和坚硬的。
尚泰零售公司公共有限公司总裁Nicolo Kalante先生说,尽管泰国消费者的总体购买力与去年相比有所下降根据经济放缓影响消费者的购买力但是,与去年同期相比,今年第三季度的结果(1月至9月)显示,该公司的Omni Channel业务(在线合并)与去年同期相比增长了80%。明年经济将会好转政府出台各种措施以持续刺激经济后。
“目前,销售处于离线状态。 (店面)不是很好,但是增长率还是有的特别是省级市场仍保持良好的增长。因为分支已经扩大Calante先生说,其中收入的主要比例来自线下95%,其余5%来自在线。
早期在线但进展顺利
针对泰国的电子商务市场仍处于初期阶段可以分为4个组,第一个组在网上开放,没有店面,第二组有店面,没有在线,第三组有店面,也在线,但是没有链接,而Central Retail经营的第四组是第一个,也是唯一一个可以做到的泰国是将离线和在线渠道整合在一起通过支持该服务的各种服务,客户感到两个渠道可以顺利融合。
“在第四组从现在开始10年后,无论Lazada Shop是否必须设有店面,所有企业都必须采用这种形式包括必须为Omni Channel的其他组,必须具有各种渠道为客户提供服务”。
今年推动新的Omni万泰铢销售额
尼古拉斯先生说,Omni Channel今年尚泰零售的销售额约为100亿泰铢,比去年增长了一倍。占最初阶段,占尚泰零售总销售额的5-10%但趋于稳定增长通过扩展到尚泰零售集团的所有业务,B2S和Thai Watsadu尚未开始,但未来将要做并扩展到覆盖所有业务,预计到2020年Omni Channel的销售比例将增长10%。
新兴的11.11大型销售活动
为了保留今年的“ 11.11超级销售”活动,客户可以首次在店面和在线渠道购物,并在7-11点之间进行90%的折扣促销该组将包括Central组中的所有企业。零售和中央集团加盟超过一百万种产品和100%保证的产品,每一件产品均由James Mar选为大使活动。既然是真正的客户交流购物经验和品牌,以达到新一代。
“第一次共享在线和离线促销活动的预算为了从现在起获得更广泛的认识,中央零售集团和中央集团的商店每个月大约有1亿客户选择购买商品,而网页上的商店浏览量则超过1600万。预计该活动将有助于在过去2个月中将销售提高100%。”
启动新服务“交付”
此外,该公司还推出了一项新服务来满足消费者的需求:1.在全国开设的Power Buy商店提供1小时的接机服务。 2.从顶部到顶部2小时内快递在线购物,例如食物,肉类和3.中央聊天室和商店的快递服务,客户可以在此与可以进行购买的私人助理交谈。以及提供适合每个客户特定需求的产品建议并在99分钟内将产品交付给客户,适用于曼谷及其周边地区。
“这三项服务是吸引更多客户并将新服务扩展到网络中更多企业的起点过去尽管没有得到很大的提升,但反应良好有时客户无法想到他们想要的东西,但是当我们提供这些服务时,他们会得到客户的好评。为了让客户尽可能舒适”。
积累经验以满足客户
尼科洛先生继续说,即使网上购物很方便但是大多数客户仍然想尝试产品并体验真正的产品包括寻求销售人员的建议,售后服务以及将产品带回家而不必像在线订购一样等待的满意度为了向顾客提供最佳的购物解决方案,无论是在商店还是在线商店,Central Retail都提供了综合服务,以创造完美的购物体验。高效无缝地响应客户需求。
“เซ็นทรัล รีเทล” หนึ่งในธุรกิจเรือธงของกลุ่มเซ็นทรัล ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส ซีเอ็มจี ไทวัสดุบ้านแอนด์บียอนด์ ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ แฟมิลี่มาร์ท และมัทสึโมโตะ คิโยชิ ครอบคลุมทั้งธุรกิจแฟชั่น ฮาร์ดไลน์ และฟู้ด ซึ่งแต่ละปี เซ็นทรัล รีเทล ใช้งบลงทุนเฉลี่ย 40,000-50,000 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้รวม 240,297 ล้านบาท มีสัดส่วนจากประเทศไทย 77-78% จากเวียดนาม 14-15% และอิตาลี 8% โดยมาจากกลุ่มฟู้ด 43% แฟชั่น 35% และฮาร์ดไลน์ 22%
นายนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศไทยจะชะลดตัวดีเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 3 ไตรมาส (ม.ค.-ก.ย.) เทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่าธุรกิจออมนิ ชาแนล (ออฟไลน์ ผสานออนไลน์) ของบริษัทเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา 80% คาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะดีขึ้น หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
“ขณะนี้ยอดขายออฟไลน์ (หน้าร้านการค้า) ไม่ได้ดีมาก แต่ยังมีอัตราการเติบโต โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดยังเติบโตดี เพราะมีการขยายสาขา โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากออฟไลน์ 95% ที่เหลือ 5% เป็นออนไลน์” นายกาลันเต้ กล่าว และว่า
ออนไลน์ช่วงเริ่มต้นแต่ไปได้ดี
สำหรับตลาดอี คอมเมิร์สในประเทศไทยนั้น ยังอยู่ในขั้นเพิ่งเริ่มต้น สามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรก เปิดออนไลน์ ไม่มีหน้าร้าน กลุ่มสอง มีหน้าร้านไม่มีออนไลน์ กลุ่มสาม มีหน้าร้านและมีออนไลน์ด้วยแต่ไม่ได้เชื่อมโยงกัน และกลุ่มสี่ ที่เซ็นทรัล รีเทลดำเนินการเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่สามารถทำได้ คือผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน โดยมีบริการต่างๆที่สนับสนุนการบริการให้ลูกค้ารู้สึกว่า ทั้ง 2 ช่องทางสามารถผสมผสานกันได้อย่างราบรื่น
“ในกลุ่มที่สี่ 10ปีข้างหน้าต่อจากนี้ทุกธุรกิจจะต้องเป็นในรูปแบบนี้ไม่ว่าจะเป็น ลาซาด้า ชอปปี้ ต้องมีหน้าร้าน รวมทั้งกลุ่มอื่นที่จะต้องเป็นOmni Channel คือต้องมีช่องทางที่หลากหลาย ในการให้บริการแก่ลูกค้า ”
ดันยอดขายออมนิฯหมื่นล.ปีนี้
นายนิโคโล ระบุว่า ยอดขายออมนิ ชาแนลของ เซ็นทรัล รีเทลในปีนี้ ประมาณ 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนเท่าตัว คิดเป็นสัดส่วน 5-10%จากยอดขายรวมของ เซ็นทรัล รีเทล ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้น แต่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยขยายไปทุกธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ซึ่ง บีทูเอส กับ ไทวัสดุ ยังไม่ได้เริ่มแต่อนาคตกำลังจะทำ และขยายไปให้ครอบคลุมทุกธุรกิจ คาดว่า สัดส่วนยอดขายออมนิชาแนลเพิ่มขึ้น10%ในปี2563
ผุดแคมเปญ11.11 เมกาเซลล์
สำหรับจุดประสงค์จองแคมเปญ“11.11 Mega Sale”ในปีนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อของทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรกด้วยโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 90% ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 11 พ.ย. นี้ ซึ่งจะรวมทุกกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทลและกลุ่มเซ็นทรัลเข้าร่วม โดยมีสินค้ากว่า 1 ล้านรายการ พร้อมทั้งรับประกันของแท้ 100% ทุกชิ้น โดยได้เลือก เจมส์ มาร์ มาเป็นแคมเปญแอมบาสเดอร์ เนื่องจากเป็นลูกค้าตัวจริง เพื่อสื่อถึงประสบการณ์ช้อปปิ้งและแบรนด์ของในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
“ ถือเป็นครั้งแรกในการใช้งบประมาณร่วมกันในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเกิดการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้นจากปัจจุบันที่ ในแต่ละเดือน ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล มีจำนวนลูกค้าที่เข้าไปเลือกซื้อสิ่งของประมาณ 100 ล้านครั้ง ขณะที่ร้านค้าบนหน้าเว็บมีผู้เข้าชมกว่า 16 ล้านครั้ง คาดว่า แคมเปญนี้จะช่วยผลักดันยอดขาย 2 เดือนสุดท้ายโต100% ”
รุกเปิดตัวบริการใหม่“ดิลิเวอรี่”
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดให้บริการใหม่ออกมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค 1. บริการรับสินค้าที่ร้านเพาเวอร์บาย ใน 1 ชั่วโมง (1-hour pick up)ที่เปิดให้บริการทั่วประเทศ 2.บริการส่งสินค้าด่วน (Express Delivery) ภายใน 2 ชั่วโมงจากจากท็อปส์ ออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เนื้อสัตว์ และ3. บริการส่งสินค้าด่วนจาก เซ็นทรัล แชท แอนด์ ช้อป(Chat & Shop) ซึ่งลูกค้าสามารถพูดคุยกับผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยให้บริการในการเลือกซื้อสินค้า รวมทั้งให้คำแนะนำสินค้าที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย และทำการส่งสินค้านั้นถึงมือลูกค้าภายในเวลา 99 นาที สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
“ทั้ง 3 บริการดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นและขยายบริการใหม่ๆออกไปสู่ธุรกิจต่างๆในเครือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีแม้จะยังไม่ได้โปรโมทมากนัก ซึ่งบางครั้งลูกค้าคิดไม่ออกว่าต้องการอะไรแต่เมื่อเรานำเสนอบริการเหล่านี้ออกไปได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบายที่สุด”
ชูประสบการณ์ตอบโจทย์ลูกค้า
นายนิโคโล กล่าวต่อว่า แม้การชอปปิงออนไลน์จะให้ความสะดวกสบาย แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงต้องการลองสินค้าและสัมผัสสินค้าจริง รวมถึงมองหาคำแนะนำจากพนักงานขายบริการหลังการขาย และความพึงพอใจที่จะได้สินค้าติดมือกลับบ้านโดยไม่ต้องรอเหมือนการสั่งซื้อออนไลน์ เพื่อเป็นการมอบโซลูชั่นในการชอปปิงที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งที่หน้าร้านและบนช่องทางออนไลน์ของเซ็นทรัล รีเทล จึงได้ผสานบริการต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ